ประสิทธิภาพในการทำงานจะเป้นตัววัดว่าคุรสามารถทำงานได้ดี ตรงตามเป้าหมายของทั้งบริษัทและตัวเองหรือไม่ อาจจะต้องนึงถึงทั้ง Input ที่เราใส่เข้าไปในงานอย่างเวลาและพลังงาน (หรือวัตถุดิบที่ใช้ผลิตถ้ามองในมุมอุตสาหกรรม) และ Output หรือผลลัพธ์ที่ได้ว่ามีปริมาณและคุณภาพมากขนาดไหน ซึ่งแน่นอนว่าในการทำงานนั้นคุณย่อมพบเจอกับอุปสรรคอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคที่เกิดจากตัวเองหรือจากคนอื่น ดังนั้นการวางแผนการทำงานจะช่วยให้การทำงานนั้มีประสิทธภาพมากยิ่งขึ้น วันนี้จะชวนมาเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วยวิธี ดังนี้ 

1.จัดลำดับความสำคัญของงาน

การจัดลำดับความสำคัญของงาน ช่วยให้จัดระเบียบการทำงานได้อย่างถูกต้อง ว่างานชิ้นใดควรเริ่มต้นทำก่อน-หลัง เพื่อให้งานทุกชิ้นเสร็จทันตามเวลาที่กำหนดและออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะไม่ต้องออกไปสื่อสารกับใครแต่การมีสมุดโน๊ต หรือคอยจดโน๊ตเอาไว้จะช่วยให้งานของเราไม่หลุด สื่อสารและตอบคำถามต่างๆ ได้อย่างตรงจุด และเป็นการฝึกจดโน๊ตไปในตัวเก็บไว้เป็น Soft Skill ให้เราในอนาคตได้อีกด้วย

2.วางแผนตารางเวลา

เมื่อได้รับงานมาทั้งงานแบบระยะสั้นและระยะยาว สิ่งแรกที่ควรทำคือ การจัดตารางงานโดยการแบ่งงานและจัดลำดับความสำคัญ เพื่อให้การทำงานเป็นไปได้อย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และส่งผลต่อเป้าหมายของคุณและบริษัท

3.ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน

การตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนเป็นอีกหนึ่งวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ โดยการกำหนดเป้าหมายการทำงานแต่ละวัน ว่าในวันนี้จะทำงานชิ้นใดบ้าง จะทำทั้งหมดกี่ชิ้น แล้วบริหารจัดการให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้แล้ว

4.ตัดสินใจให้เป็น

ทักษะในการตัดสินใจไม่ใช่เพียงแค่การเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เป็นการตัดสินใจเลือกมาอย่างดี โดยอาศัยการวิเคราะห์ด้วยเหตุและผล พร้อมกับการไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนว่าสิ่งที่ตัดสินใจลงไปนั้นเป็นประโยชน์ต่อองค์กรที่สุด ดังนั้น การมีทักษะในการตัดสินใจที่ดีจะช่วยให้องค์กรมีความก้าวหน้า ประสบความเร็จได้ง่ายขึ้น

5.ข้อผิดพลาดมีไว้ให้เรียนรู้ 

ไม่มีใครที่จะทำงานได้เพอร์เฟคหมดทุกชิ้นงาน อย่างน้อยๆ ก็คงจะมีจุดเล็กๆ ที่ผิดพลาดกันไปบ้าง ต่เมื่อผิดพลาดไปแล้ว ก็ควรเรียนรู้จากข้อผิดพลาดที่ได้เกิดขึ้น โดยมองหาสาเหตุของปัญหาว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากอะไร และมีวิธีใดบ้างที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ เพื่อที่ครั้งหน้าจะได้ไม่ทำผิดในเรื่องเดิมอีก

6.มีทัศนคติที่ดีในการทำงาน

การสร้างทัศนคติที่ดีในการทำงาน จึงเป็นหนึ่งตัวช่วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่ทำให้ก้าวผ่านเรื่องเหล่านี้ไปได้ และช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งทัศนคติที่ดีในการทำงานนั้น ไม่ใช่การมองโลกในแง่ดีเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการเข้าอกเข้าใจเพิ่อนร่วมงานด้วยกัน ใช้เหตุและผลในการมองปัญหา 

ลองนำทั้ง 6 ข้อนี้ ไปพัฒนาฝีมือการทำงานให้มีประสิทธิภาพ เผื่อได้เลื่อนขั้นเลื่อนเงินเดือน รวมทั้งมีความสุขกับการทำงานด้วย