การสูญเสียการได้ยินนั้นเกิดขึ้นได้หลากหลายปัจจัย ซึ่งอาจจะยังไม่มีวิธีการรักษาที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาได้ยินเป็นปกติได้ ดังนั้นการแก้ปัญหาที่เรียกว่าดีที่สุดก็น่าจะเป็นการใช้เครื่องช่วยฟัง ซึ่งเครื่องช่วยฟัง ราคาก็มีหลายแบบ หลายราคา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องที่ควรรู้ก่อนซื้อเครื่องช่วยฟัง มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
1. รู้ระดับการสูญเสียการได้ยิน
นี่เป็นสิ่งแรกที่คุณจะต้องรู้เป็นอย่างดีว่า คุณเองมีระดับการสูญเสียการได้ยินว่าอยู่ในระดับใด หรือในระดับความดังกี่เดซิเบล (dB) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการจะใส่เครื่องช่วยฟังนั้นจะต้องใส่เมื่อมีการสูญเสียการได้ยินในระดับ 40 เดซิเบล ขึ้นไป
2. รู้กำลังขยายของเครื่องช่วยฟัง
ควรเลือกเครื่องช่วยฟังที่มีกำลังขยายที่สามารถรองรับกับการสูญเสียการได้ยินที่อาจเพิ่มขึ้นได้ โดยเครื่องช่วยฟังแต่ละแบบจะเหมาะกับผู้สูญเสียการได้ยิน ดังนี้
- เครื่องช่วยฟังแบบในช่องหู (In The Ear – ITE) เหมาะสำหรับผู้สูญเสียการได้ยินในระดับเล็กน้อยถึงค่อนข้างรุนแรง (41 – 70 dB)
- เครื่องช่วยฟังแบบทัดหลังหู (Behind The Ear – BTE) เหมาะสำหรับผู้สูญเสียการได้ยินในระดับเล็กน้อยถึงค่อนข้างรุนแรง (41 – 70 dB)
- เครื่องช่วยฟังแบบทัดหลังหูกำลังขยายสูง (Power Behind The Ear – Power BTE) เหมาะสำหรับผู้สูญเสียการได้ยินในระดับรุนแรงขึ้นไป (71 – 90 dB)
3. รู้เรื่องการรับประกัน และบริการหลังการขาย
เป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามกันไปมาก การเลือกซื้อเครื่องช่วยฟัง นอกจากเรื่องราคาแล้ว ยังควรคำนึงถึงการรับประกันและบริการหลังการขายของสถานที่จำหน่าย และเมื่อท่านตัดสินใจซื้อเครื่องช่วยฟังแล้ว โดยคุณควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เช่น บริการหลังการขาย เช่น การติดตามผลหลังจากใส่เครื่อง การปรับเครื่องช่วยฟัง การทำความสะอาดเครื่อง, ระยะเวลาการรับประกัน และเงื่อนไขการรับประกัน เป็นต้น
4. รู้ค่าใช้จ่าย
การใช้เครื่องช่วยฟังจะมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น คือ ค่าใช้จ่ายแบตเตอรี่เครื่องช่วยฟัง และค่าใช้จ่ายสารดูดความชื้น เนื่องจากเครื่องช่วยฟังเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ และในการสวมใส่เครื่องเป็นประจำทุกวัน ความชื้นอาจถูกสะสมอยู่ภายใน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้อุปกรณ์ชำรุดได้ การใช้สารดูดความชื้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยในการยืดอายุการใช้งานให้กับเครื่องช่วยฟัง
และนี่ก็เป็น 4 ข้อควรรู้ก่อนที่จะซื้อเคร่องช่วยฟังมาใช้ ซึ่งเครื่องช่วยฟัง ราคาถูกและแพงก็จะมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพแตกต่างกัน ซึ่งคุณสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่าง intimex ที่จะช่วยเลือกเครื่องช่วยฟังให้เหมาะกับคุณ และไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด หากมีปัญหาเรื่องการได้ยินเข้าไปปรึกษาได้ที่ Intimex